Posts tagged ‘2010’

ธันวาคม 8, 2010

ปั่นน่องท่อง…Sicily

16_Sicily

(เป็นทริปที่นั่งเทียนเขียนมากๆ ไม่ใช่เพราะเขียนมั่ว แต่เป็นเพราะเอาเวลาที่ควรจะทำงานมาเขียน ก็เลยรู้สึกร้อนๆ เขียนไปก็เสียวไปว่างานตรูเองนี่แหละที่จะไม่เสร็จ แต่อาการไฟลนก้นก็ดูจะเป็นแรงจูงใจที่ดีไม่น้อย เหอ เหอ เหอ…)

คิมหันต์สวัสดิ์ค่ะพ่อแม่พี่น้อง กลับมาอีกครั้งแล้วค่ะกับเมลนรก (ค่าที่มันจะยาวมาก และคาดว่าครั้งนี้จะมิใช่ธรรมดา) ที่อาจทำให้เมลบ๊อกซ์พี่ๆ เดี้ยงกันอีกครั้ง แต่ไหนๆ Hotmail เค้าก็เพิ่มขนาดส่งได้ถึง 25 เม็ก ก็ต้องฉลองศรัทธาเค้าซักนิด

ลมหนาวเริ่มพัดมาบอกเวลาว่าจะหมดปี ฤดูกาลผ่านไปไวเหมือนโกหก เหมือนเงินที่เที่ยวแป๊บเดียวก็หมด  เผลอแป๊บเดียวภู่ก็มีอันต้องระเห็จกลับจากเมืองพาสต้า มานั่งกินมาม่าต้มยำน้ำข้นอยู่กรุงเทพได้พักใหญ่แล้ว (ไปลามาไหว้มารยาทงามมาก กลับมาก็ต้องเขียนมาบอกด้วย – จริงๆ ตั้งใจโฆษณาแฝงว่ามีงานอะไรก็ส่งมาเถอะค่ะ พร้อมรับทั่วราชอาณาจักร)

เมลฉบับนี้สืบเนื่องมาจากมีกระแสเรียกร้องอย่างล้นหลามจากเพื่อนๆ พี่ๆ (นับนิ้วได้สามคนพอดี) ว่าเมื่อไหร่จะเขียนเรื่องไปเที่ยวให้มันจบซักที อย่ากระนั้นเลย ขอใช้ช่วงเวลางานเข้าเขียนซักหน่อย พี่คนไหนขี้เกียจอ่าน ก็คลิกผ่านๆ ดูรูปเอาขำๆ ก็ได้ค่ะ…band

ทิ้งท้ายกันไว้ที่จดหมายฉบับที่แล้ว หลังจากอิ่มหนำสำราญอยู่ในทัสคานีได้เกือบหนึ่งเดือน ขะรอยอัลเลคงจะเห็นว่าทริปเราเริ่มสบายเกินไป ก็เลยตระเตรียมแผนการมุ่งหน้าลงใต้ ไปเที่ยว “ซิซิลี” เกาะซึ่งอยู่ทางตอนใต้ของประเทศอิตาลี โดยวางแผนพากันไปตั้งเต๊นท์ริมเมืองชายทะเล เล่นน้ำบ้าง ดูร่องรอยอารยธรรมกรีกโบราณบ้างให้ฉ่ำใจ…

แผนการฟังดูดีมากราวกับไฮซ้อเมืองไทยจะได้ไปตากอากาศแถบริเวียร่า ถ้า…ถ้าไม่ติดตรงที่ว่า เฮียแกเกิดปิ๊งไอเดียบรรเจิดแล้วฟันธงเปรี้ยง…

“ขี่จักรยานไปกัน!!!”

confusedS อะโหอัลเลกุมารเอ๋ย…หลายครั้งที่ไปเที่ยวด้วยกัน อิชั้นก็พอจะรู้มาล่ะค่ะว่า ทริปขี่จักรยานนี่เป็นหนึ่งในความฝันของคุณ แต่แค่หลับตานึกถึงความยากลำบากที่จะเกิดขึ้นบวกกับความเอ็กซตรีมส่วนตัวของพ่อเจ้าประคุณ อิชั้นก็แทบหนาวไปถึงทรวง แต่มิไยที่จะพร่ำคัดค้านว่าไปแบบคนปกติเค้าไม่ได้เร้อ…เฮียก็จะตอบกลับมาประมาณว่า…

“ ขี่จักรยานไปน่ะ..หยุดที่ไหนก็ได้จะไปไหนก็ได้ ดีออก…”

ในซิซิลี รถบริการสาธารณะไม่ค่อยมี แล้วแคมป์ไซท์แต่ละที่ก็อยู่นอกเมือง ถ้าไม่มีรถไปเองก็ลำบาก..”

จักรยานเป็นพาหนะเดียวที่เค้าให้เอาขึ้นรถไฟได้ ถ้าเราเหนื่อยๆ เราก็นั่งรถไฟข้ามเมืองเอา แล้วเวลาอยากไปเที่ยวที่ไหนๆ ก็ค่อยขี่จักรยาน ชิลๆ!!…”

หน้าร้อนอากาศดี ซิซิลีก็วิวสวย ถ้านั่งรถไปนั่งรถมา แล้วจะมีเวลามาชื่นชมกับวิวทิวทัศน์สองข้างทางได้ยังไงล่ะ…”

นั่นแหละค่ะ เหตุผลของผู้ชายรักธรรมชาติ สายลมและแสงแดดของเฮียเค้า แต่ผู้หญิงผิวบางอย่างภู่จะยอมง่ายๆ ก็ใช่ที่ค่ะ สองอาทิตย์ก่อนเดินทาง เรายังคงเถียงกันไม่จบสิ้น สุดท้าย เฮียงัดไม้เด็ด ส่งลิงค์ The Adventure Cycling Guideมาให้…อ่ะเอาไปอ่าน

tim ชายในรูปนี้เป็นคนเขียนเว็บไซต์ที่ว่า ตะแกชื่อ ทิม บาร์น อ่านจากไซต์ก็ได้นัยว่าเขากับภรรยาขี่จักรยานไปเที่ยวมามากมายหลายทริปทั่วโลก ประทับใจก็มากหลาย แล้วเฮียก็เลยมาเขียนบอกเล่าถึงเคล็ดบ้างอะไรบ้างถึงประสบการณ์เอย วิธีการวางแผนเอย การเลือกจักรยานเอย มาให้เราๆ ท่านๆ ได้ฟัง เผื่อจะอยากตามรอยไปบ้าง เฮียอัลเลของดิชั้นก็ตกเป็นหนึ่งในนั้นแหละค่ะ ส่วนตัวภู่เองก็เปิดอ่านผ่านๆ มาจั๋งหนับก็ตรงหน้าที่ว่าด้วย เหตุผลสิบข้อที่ขอให้ได้ปั่น หนึ่ง…เป็นอิสระ สอง…ได้เห็นโลกกว้าง สาม…ได้ไปในเส้นทางที่ไม่ซ้ำใคร สี่…ได้พบเจอผู้คนแปลกใหม่ ห้า…ตื่นตุ้มตื่นเต้นอย่าบอกใคร หก….จะกินอะไร กินเท่าไหนก็ได้..อืม…หืม..อะไรนะ….กรี๊ดดดด….นี่ไงล่ะ นี่ไง…ชั้นพบแล้ว อินสะไปรูลิน่า..เอ๊ย..อินสะไปเรชั่นของชั้น…

6. You can eat as much as you like

Pedalling burns a splendid amount of calories. On a tour of any length you can eat as much as you like and you will still end up losing weight

แปลได้ความว่า..สูเจ้าจงกินเข้าไปเถิด เพราะไขมันที่บังเกิดจะมอดมลายวายสิ้นไปได้ก็ด้วยแรงปั่นอันแน่วแน่นั่นแล….

โอ..สิทธิการิยะ…ถึงแค่ข้อ 6 ดิชั้นก็ตัดสินใจได้แล้วค่ะ ปั่นเป็นปั่นกันสิคะ กลับมาแม่จะแปลงร่างเป็นเคท มอสให้ดู!!

Map_Region_of_Sicilia

ภาพแผนที่ซิซิลี ที่ปลายรองเท้าบูท

credit map : http://en.wikipedia.org/wiki/Sicily

ตกลงใจได้ หนึ่งอาทิตย์ก่อนออกเดินทาง เราสองคนก็เริ่มหาข้อมูลท่องเที่ยวซิซิลี (ส่วนภารกิจหลักของเราคือการแอบนั่งดู La Femme Nikita online อดใจไม่ไหวจริงๆ เพราะอินเตอร์เน็ทมันเร็วโพด!!! biggrin ) อัลเลแถมพ่วงด้วยการหาข้อมูลและปรินท์ที่ตั้งแคมป์ไปคร่าวๆ  เพราะที่อิตาลี ใช่ว่าจะหยุดจอดกางเต๊นท์นอนกันได้ตามใจชอบ ผู้ใดใคร่นอนเต๊นท์ ต้องถ่อไปนอนตาม camping site ที่ได้รับใบอนุญาตเท่านั้น

ว่าแล้วก็ขอเล่าเรื่องนี้หน่อยนึง เพราะวัฒนธรรมการแค้มปิ้งของที่นี่ (ซึ่งน่าจะรวมถึงยุโรปโดยรวมนั่นแหละ) มันช่างเป็นเรื่องเป็นราวซะจริง คนไทยเรานิยมไปตั้งแคมป์หน้าหนาว ไปดูทะเลหมอก เพราะอากาศมันดี๊ดี ฝรั่งก็เช่นกัน กลับกันตรงที่เธอพากันไปช่วงหน้าร้อน โดยเฉพาะช่วงเดือนสิงหาคมซึ่งเป็นช่วงหยุดยาว ครอบครัวอิตาเลียนซึ่งชื่นชอบทะเลกันเป็นชีวิตจิตใจ ก็จะพากันขนข้าวของ เฟอร์นิเจอร์ใส่ Rulotte ซึ่งเป็นคล้ายๆ รถบ้าน ลากไปตั้งแคมป์กินนอนอยู่ที่ camping site ใกล้ทะเลกันเป็นเดือนๆ ตื่นมาก็ไปอาบแดด ลงทะเล ตกเย็นก็มาปิ้งบาร์บีคิว ทำกับข้าว ดูทีวีกันเป็นจริงเป็นจัง อยู่กันเป็นบ้านเลยว่างั้นเถอะ…

campingplatz X_Terra_Italy_2010_-_Camping_Cala_Ginepro_3813
credit ภาพ :

http://www.italy-islands.com/camping.html

http://www.portalesardegna.com/en/campsite/X%20Terra%20Italy%202010%20-%20Camping%20Cala%20Ginepro

camping site ที่ว่านี้มีอยู่มากมาย ยิ่งเมืองท่องเที่ยวยิ่งมีให้เลือกเยอะ โดยจะจัดแบ่งพื้นที่สำหรับกางเต๊นท์ พื้นที่สำหรับรถแค้มปิ้ง บางที่ก็มี rulotte ให้เช่า หรือกระทั้งบังกะโล และส่วนใหญ่ก็จะครบครันไปด้วยสาธารณูปโภคต่างๆ มากน้อยต่างกันไป พื้นฐานก็คือพื้นที่ส่วนรวม ซึ่งประกอบด้วยห้องน้ำ ห้องอาบน้ำแยกชายหญิง ที่ซักล้าง โรงครัว ไปจนถึงร้านอาหาร ลามปามไปถึงสระว่ายน้ำ คลับเฮาส์ ยันดิสโก้นู่นน

ตลอดหนึ่งเดือนที่เราไปพักมา หน้าตา camping site แต่ละที่ก็แตกต่างกันไป ตั้งกะเป็นพื้นที่เหมือนโรงรถมีผ้าใบคลุมกันแดด พื้นปูด้วยก้อนกรวด พื้นทราย ไปยันพื้นหญ้านุ่ม ใต้ร่มเงาของสวนโอลีฟ แต่ที่แน่ๆ คือการไปพักตาม camping site นี้ นับได้ว่าเป็นทางเลือกที่พักที่ถูกที่สุดในบรรดา โดยจะคิดราคาค่าที่พักต่อคนต่อเต็นท์และต่อคืน เต๊นท์ใหญ่หน่อยก็แพงหน่อย ใครขับรถมาก็อาจต้องเสียค่าจอดรถด้วย ส่วนรถบ้านก็จะต้องเสียค่าไฟเพิ่ม เป็นต้น …ตลอดหนึ่งเดือนที่ไปเที่ยวมา เราเสียค่าที่พักเฉลี่ยคืนละ 20 ยูโร เท่านั้น (ซึ่งถือว่าถูกมากกสำหรับสองคน ส่วนจักรยานนั้นจอดฟรี!! )

IMG_0340 IMG_0778

นอนบนพื้นกรวดที่ Sferracavallo                                 ดูพระอาทิตย์ตกทะเลที่ Ballestrate

IMG_0820 01511_DSC_6786

สามก้าวเดินลงน้ำที่ Triscina                                      ร่มรื่นกลางทุ่งหญ้าที่ San Leone

01724_DSC_7149

นอนสบายใต้ต้นโอลีฟที่ Agriturismo Gerece

IMG_1552

กอดผืนทราย บนชายหาดจำลอง ที่ Catania

01499_DSC_6761

One and only แอบ FREE camping ที่ Sciacca

ซิซิลีจ๋า…ก่อนไปชั้นก็รู้จักเธอที่เค้าเล่าลือมาว่า น้ำส้มซิซิลีอร่อย เลมอนซิซิลีฉ่ำจี๊ดสะใจ อ้อ..แล้วก็เป็นถิ่นมาเฟียอิตาลีที่เค้าเอามาสร้างเป็นหนังดังโด่งไปทั่วโลก แต่โอ้ว..มายก็อดฟาเธอร์ช่วยกล้วยทอด เราสองคนลืมนึกกันไปว่าเธอนั้นเป็น “เกาะ” เกาะที่มีถนนทอดยาวเลียบทะเล แต่ตัดผ่านภูเขาขึ้นๆ ลงๆ กันเป็นลูกๆ เส้นทางมันถึงได้ uphill อัพฮิ้ลลลลลลลล กันไม่หวาดไม่ไหว ในขณะที่หัวใจเราก็ downhill ดาวน์ฮิ้ลลลลลงไปทุกขณะ

กว่าจะรู้ตัวก็กลับลำไม่ได้เสียแล้ว หิ้วจักรยานไปก็ต้องปั่นกลับมาด้วย ทั้งที่เหนื่อยแทบขาดใจ ถ้าได้เขียนเมลนี้ตอนอยู่ที่โน่น คงตั้งชื่อว่า… ปั่น banlai ไปซิซิลี… เป็นแน่แท้!!)

ยังจำคำอัลเลตอนต้นเรื่องได้มั้ย ถ้ารู้ว่าทริปนี้มันจะหฤโหดแค่ไหน ชั้นคงเถียงกลับไปแล้ว…

01711_DSC_7124

ขี่จักรยานไปน่ะ..หยุดที่ไหนก็ได้จะไปไหนก็ได้ ดีออก…– แต่ถ้าขี่ไม่ไหว ขอโยนจักรยานทิ้ง วิ่งขึ้นรถได้มั้ยอ่ะเฮีย

01800_DSC_7244 IMG_0818

ในซิซิลี รถบริการสาธารณะไม่ค่อยมี แล้วแคมป์ไซท์แต่ละที่ก็อยู่นอกเมือง ถ้าไม่มีรถไปเองก็ลำบาก..– กว่าจะขี่ถึงแต่ละเมืองก็ซี่โครงบานแล้ว นี่ยังต้องปั่นวนหาแคมป์ไซท์อีก โอ๊ยย กรูจะตายยยย

IMG_1185 IMG_1567

จักรยานเป็นพาหนะเดียวที่เค้าให้เอาขึ้นรถไฟได้ ถ้าเราเหนื่อยๆ เราก็นั่งรถไฟข้ามเมืองเอา แล้วเวลาอยากไปเที่ยวที่ไหนๆ ก็ค่อยขี่จักรยาน ชิลๆ!!…– จักรยานเราไม่ใช่เบาๆ แถมบางขบวนก็ไม่ให้ขึ้น ประหนึ่งว่ามีจักรยานเหมือนมีส้วมอยู่หน้าบ้าน แล้วไหนละเฮีย รถไฟข้ามเมือง ต้องปั่นกันสามวันติดเป็นร้อยโลก็เพราะเมืองนี้มันไม่มีรถไฟไม่ใช่เร้อออ

IMG_1229

“หน้าร้อนอากาศดี ซิซิลีก็วิวสวย ถ้านั่งรถไปนั่งรถมา แล้วจะมีเวลามาชื่นชมกับวิวทิวทัศน์สองข้างทางได้ยังไงล่ะ…แดดร้อนเปรี้ยงสี่สิบองศา ขี่ไปจนเป็นลมไข้ขึ้น อยากให้มันถึงอย่างเดียว ไม่มีอารมณ์จะชมวิวแล้วเฮียยย

16_Sicily1

ทุลักทุเล ตุปัดตุเป๋กันมาตลอดทาง ก็ไม่ใช่ว่ามันจะเลวร้ายไปเสียทั้งหมดหรอก ช่วงเวลาที่ดีๆ มีรอยยิ้ม มีเสียงหัวเราะก็มากมาย แต่เสียน้ำตาไปก็หลายอยู่ หนึ่งหญิงหนึ่งชาย คีบอีแตะหูหนีบปั่นจักรยานนอนกลางดินกินกลางทรายอยู่ได้หนึ่งเดือนก็วนเที่ยวเมืองสำคัญๆ ได้รอบซิซิลี เกาะที่นับได้ว่าใหญ่ที่สุดในเมดิเตอร์เรเนียน เว้นไปบ้างเป็นบางเมือง (เยอะอยู่) พอให้อยากกลับไปใหม่

route

เส้นทางสายปั่นน่อง ระยะเวลาหนึ่งเดือน

ถ้าภูกระดึงเป็นทริปวัดใจเมืองไทย ซิซิลีก็เข้าข่ายเป็นทริปลองของต่างแดน (น้องๆ ทริปจีนปากี) ที่ทำให้ตบตีทะเลาะจนร่ำๆ จะเลิกกันกลางทางก็หลายครั้ง

16_Sicily2

ส่วนจะโหดมันฮาแค่ไหน

pingume

สุขเศร้าเคล้าน้ำตาปานใด

IMG_0751

แล้วสรุปว่าลดได้ตามเป้าหมายมั้ย

16_Sicily3

แล้วทำไมกลับมาตัวด๊ำดำ

ขอพี่ๆ น้องๆ โปรดติดตามตอนต่อไปเด้อค่ะเด้อออออออ….ตะเหร่งเตร่งเต๊งงงงง

มิถุนายน 13, 2010

เมื่อหมูตกถังข้าวสาร ปลาวาฬตกถังไอติม


เสียง ดังโครม!!!!

สวัสดี ค่ะพ่อแม่พี่น้อง มิตรรักแฟนเพลงทุกท่าน หวังว่าทุกคนคงสบายกันดี (เริ่มต้นจดหมายได้ฉันทนามาก) ก่อนอื่นขอส่งความคิดถึงข้ามขอบฟ้า (ยัง..เชยได้อีก!) มาพร้อมกับกลิ่นหอมๆ ของพิซซ่า พาสต้า พาร์มีซานและสารพันชีส แฮมซาลาเม่ มอตตาเดลร่า โปรชูตโต้ แอนด์ไอติมเจลาโต ให้ทุกคนได้เท่าๆ กัน

food

จดหมายฉบับนี้ท่วมท้นไปด้วยคราบน้ำตา (ของคนเขียน) เพราะหลังจากเขียนจบไปอย่างยาวยืด ในขณะที่กำลัง Insert รูปอยู่นั้น hotmail อิชั้นก็เดี้ยงงงงงงง…เรือหาย!! หมดกันค่ะหมดกัน นั่งเขียนมาทั้งวัน โมโหแทบจะเขวี้ยงโน้ตบุ๊คใส่ข้างฝา…แต่จะทำเยี่ยงไรได้นอกจาก เขียนใหม่ ก็ถือเป็นโชคดีของพี่ๆ ไป ที่ไม่ต้องทนอ่านเมลยาว ส่วนความซวยส่งมาที่ช้านน ช้านนรับไว้เอ๊งงงงง…ฮึกฮือๆๆ T__T

เอา ล่ะ…นั่งเขียนไปกัดฟันกรอดๆ ไปเหมือนคนบ้า…ก่อนอื่น ขอเล่าเท้าความซักนิด…สำหรับท่านที่มิได้ติดต่อส่งทั้งข่าวคราว กันมาพอสมควร ตอนนี้ภู่เก็บข้าวเก็บของหนีตาม..เอ๊ย มาเที่ยวกับอัลเลอยู่ที่อิตาลีได้ซักพักใหญ่แล้วค่ะ สืบเนื่องมาจากสนธิสัญญาพาราณสี-กอทอมอที่ตกลงกับเฮียว่า ถ้าจับพลัดจับผลูวีซ่าผ่านฉันใด ปีนี้เราจะไปเที่ยวบ้านอัลเลกัน หลังจากนั้นตั้งกะต้นปีที่ผ่านมา อิชั้นก็ทำแต่งาน ค่อยเก็บหอมรอมริบ หยอดไหกระเทียมกระปุกน้ำปลา อดใจไม่ไปเที่ยวไหนเลยตั้งกะกลับมาจากอินเดียเมื่อกลางปีที่แล้ว สี่เดือนผ่านไปไวเหมือนโกหก หลังจากกระบวนการวีซ่าผ่านพ้น ตามด้วยเซอร์ไพรส์ตบตีเรื่องตั๋วเครื่องบินกันแทบลิ้นห้อยอยู่พัก ใหญ่ ในที่สุดกำหนดวันเดินทางก็มาถึง (ถึงในใจจะร้องว่า ship lost — ยังเก็บได้ไม่ถึงไหนเลย จะเอาสลึงที่ไหนมาเที่ยวฟระ) แต่อย่างไรก็ตาม the show must go on ค่ะ และแล้ว เย็นวันพุธที่ 19 พฤษภา เราก็บ๊ายบายจากกรุงเทพมาพร้อมทิ้งกลุ่มควันไฟพวยพุ่งขนาดใหญ่ไว้ เบื้องหลัง (ถ้าเล่าจะยาว รายละเอียดไปอ่านกันได้ที่ บันทึก ลับดาวินชี่ )ยังกะหนีออกนอกประเทศกันยังไงยังงั้น!!

10 ชั่วโมงจากกรุงเทพไปไคโร นั่งนับอูฐอยู่ห้าชั่วโมงเพื่อรอต่อเครื่อง สามชั่วโมงต่อมา สายการบินอียิปต์แอร์ก็พาเราบินโฉบหัวสฟิงค์ (ในจินตนาการ) มาลงที่สนามบินลีโอนาร์โด ดาวินชี่ ฟูมิชิโน่ หรือเรียกกันสั้นๆ ว่า Fumicino airport ที่กรุงโรม เมืองหลวงของประเทศ เรางัวเงียลงมาจากเครื่องยังไม่ทันได้ชื่นชมความยิ่งใหญ่อลังการ ของกรุงโรม ก็ต้องตะลีตะลานวิ่งไปขึ้นรถไฟเข้าเมือง เพื่อต่อรถไฟระหว่างเมืองอีกหนึ่งขบวนไปยังวิอาเร็จโจ เมืองใกล้ๆ กับที่พ่อแม่อัลเลอยู่

food on train

บนรถไฟ–เราควักขนมปังที่แอบเก็บมา จากบนเครื่องมากินประทังชีวิต!!!

ที่ชานชลา พ่อแม่ของอัลเลขับรถมารอรับอยู่แล้ว หลังจากกระบวนการแนะนำตัวเสร็จสิ้นด้วยภาษาอิตาเลียนเป็นคุ้งเป็น แควของเรา (คือมีแต่น้ำ เนื้อหาไม่มี) พ่อแม่อัลเลก็ขับรถพาหนุ่มสาวผู้อ่อนระโหยโรยแรงไปบ้านที่อยู่ห่าง ไปอีกราวสิบห้านาที ที่นั่น..อาหารอิตาเลียนแบบเต็มสูตรมื้อแรกตอนสามทุ่มของวัน ที่กินเวลาเกือบสองชั่วโมง ทำให้อิชั้นรู้ว่าเราทนหิวโหยอยู่สามชั่วโมงบนรถไฟเพื่ออะไร …ความรู้สึกมันช่างเหมือนแดดอุ่นฟ้าใสยามพายุผ่านพ้นไป กระนั้น..น่าน..เว่อร์ได้อีก

มาเที่ยวครั้งนี้ ไม่ได้วางแผนอะไรเป็นเรื่องเป็นราว (ฟังดูดี..จริงๆ ขี้เกียจก็บอกเค้าไปเถอะ) นอกจากยึดสโลแกน “เที่ยวทั่วถึง ไปทั่วถิ่น เหนือใต้ออกตกเราไปสิ้น (แน่นอน ยกเว้นที่ไฮโซเราไม่ไป ไม่ใช่เพราะไม่ถูกจริต..แต่ไม่มีตังค์ แหะ แหะ) โดยมีเวลาทั้งหมด 90 วันตามที่ขอวีซ่ามาได้ แต่เนื่องจากวีซ่าเชงเก้นที่ได้เป็นแบบซิ งเกิ้ล ซึ่งหมายถึงว่าไปเที่ยวได้ทั่ว 22 ประเทศในกลุ่มเช็งเก้น แต่ไอที่จะแว่บไปโมร็อคโคบ้าง แอฟริกาบ้าง ยุโรปตะวันออกบ้าง (หรือพูดอีกนัย..ประเทศที่ค่าใช้จ่ายน้อยนั้น) เป็นอันตกไป สำหรับท่านที่หวังจะเห็นอิชั้นเที่ยวแบบยูโรเปี้ยนแกรนด์ทัวร์ ขอโปรดลดระดับความคาดหวังมาซักห้าสิบจุด เพราะทัวร์ครั้งนี้เราจะเน้น “เที่ยวน้อยต่อยหนัก พักเยอะเข้าว่า” หากชาวบ้านไปทัวร์สามวันห้าประเทศได้ด้วยสูตรตื่นหกกินเจ็ดออกแปด เราจะไปกันด้วยสูตรตื่นตามใจฉัน กินมันทุกวัน และแดดออกฉันออก เมฆหมอกมาเรารอราอยู่บ้าน…ส่วนจะไปได้ถึงไหนนั้น จะคอยอัพเดททุกๆ ท่านเป็นครั้งคราวไปนะคะ

ขอพูดถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ผ่านมา ซักเล็กน้อย จะว่าไป เที่ยวครั้งนี้ (so far) ถือได้ว่าเป็นทริปที่อยู่ดีกินดีที่ สุด โดยเฉพาะถ้าคุณเพื่อนๆ พี่ๆ ทราบกิตติศัพท์การเที่ยวแบบ extreme ของอัลเลเป็นอย่างดี (คือ extremely cheap! ) เพราะครั้งนี้เรามา base กันอยู่ที่บ้านพ่อแม่อัลเล ผู้มีอุปการะคุณ ที่นอกจากจะให้หลังคาคุ้มกระหม่อม น้อยๆ ของอิชั้นแล้ว ยังคอยเป็นห่วงเป็นไย feed อิชั้นอยู่เนืองๆ ที่อิตาลีนี่ ต่อให้ลูกเต้าโตแค่ไหน พ่อแม่เค้าก็ยังคิดว่าลูกเป็นลูกที่เค้าต้อง ดูแลอยู่ อิชั้นก็เลยได้รับอานิสงค์การอยู่ดีกินดีอยู่ทุกวัน ครอบครัวไทยอาจจะดีใจถ้าแฟนลูกชายเป็นกุลสตรีเรียบร้อย เก่งการบ้านการเรือน งานหลวงไม่ได้ขาด งานราษฎร์ไม่ได้เว้น แต่สำหรับแม่อัลเลซึ่งชมชอบการทำอาหารตามแบบฉบับคุณแม่ชาว อิตาเลียนแล้ว การที่เห็นดิชั้นกินเอากินเอา กินสิ้นทุกสิ่งอย่าง อย่างเอร็ดอร่อยเหลือเกินนั้น นับว่าถูกจริตมากมาย (ขออภัยหญิงไทยทุกท่าน ที่อิชั้นอาจทำให้ภาพพจน์เสียหาย!!)

้home

บ้านเค้าคือวิมานของเรา

kitchen

ส่วนห้องครัว (โดยเฉพาะตู้เย็น) คือวิมานของอิช้านนอย่างไม่ต้องสงสัย!!

ในขณะเดียวกัน การมาอยู่ที่บ้านพ่อแม่เค้า ก็ทำให้ทริปนี้มีอารมณ์ประหนึ่ง “อิตาเลียนซัมเมอร์แคมป์ ” ที่เราได้มาอยู่กับ host family ยี่สิบสี่ชั่วโมงคือภาษาอิตาเลียน เพื่อนบ้านก็อิตาเลียน ทีวีก็ดั๊บอิตาเลียน พูดกับหมาก็ต้องภาษาอิตาเลียน ไม่งั้นชีไม่เดิน โดยเฉพาะอาทิตย์แรกๆ ที่ไปตระเวนเยี่ยมญาตินะ โอ๋ยย สนุกพิลึก! ต้องขอขอบคุณคอร์สอิตาเลียน อูโนกับอาจารย์บุสก้าแห่งคณะอักษรศาสตร์ เมื่อสองปีที่แล้ว กับจินตนาการอันสูงส่งของเรา (quoted ตามคำค่อนขอดของเฮียเค้าล่ะ) บวกกับมือไม้ท่าทางเวลาสนทนาของชาวอิตาเลียนเค้า ทำให้เราพอจับใจความได้ ดูรายการทีวีรู้เรื่อง หัวเราะเอิ๊กอ๊ากได้ตรงคิว แล้วก็นั่งคุยกับแม่อัลเลได้เป็นชั่วโมง (แน่นอน..ไม่มีใครบอกได้ว่า สุดท้ายเราเข้าใจถูกรึเปล่า เพราะนั่งกันอยู่แค่สองคน 555)

read more »